ก่อนที่คุณจะลงมือทำ Flixya คุณควรทราบถึงกฎกติกา มารยาท ของ Flixya กันก่อน
กฎกติกา ในการเขียนข้อความใน Flixya
1. การส่งข้อความ หรือการแสดงความคิดเห็น ควรใช้ถ้อยคำที่สุภาพ ไม่กล่าวร้ายซึ่งกันและกัน
2. การสมัคร 1 คน ต่อ 1 Account เท่านั้น
3. ใน 1 วัน ไม่ควรเขียนบทความ หรือส่งรูปภาพขึ้น Flixya เป็นจำนวนมากๆ เพราะนั้นคือการ Spam
4. อย่าเขียนบอกเพื่อนให้เขา ช่วยคลิกโฆษณานะ เพราะถือว่าผิดกฎ
5. ไม่นำภาพลามก อนาจาร หรือ วีดีโอ ที่ส่อไปในทางลามก มาเผยแพร่
6. ห้ามนำรูปภาพ หรือวิดีโอ ที่ไม่ใช้ลิขสิทธ์ของคุณมาเผยแพร่
7. อย่านำรูปภาพ วิดีโด หรือบทความ ที่เกี่ยวกับการ โจมตี ศาสนา หรือเชื้อชาติ มาเผยแพร่
8. ห้ามเขียนบทความ เชิญชวน หรือซื้อขายสินค้า บนเว็บ Flixya โดย เด็จขาด
ท่าคุณทำตามกฎกติกา ของเขาได้ คุณก็จะไม่โดนปิด Account แน่ๆ เพราะถ้า Flixya ปิด บัญชีคุณ แน่นอนที่ Google ก็ปิดบัญชี ทำมาหากินของคุณด้วยเช่นกัน ดังนั้นอย่าเสี่ยงทำเลย มันไม่คุ้มหลอก
วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2553
การหาบทความลง Flixya
ครั้งนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่อง บทความที่เราจะลงใน Flixya เราควรเอามาจากที่ไหนได้บ้าง ถ้าเราเขียน ภาษาอังกฤษไม่เก่ง หรือถ้าเราเขียนภาษาอังกฤษเก่ง แต่ต้องการความหลากหลายของบทความ เราควรหามาจากที่ไหนได้บ้าง
1. เขียนบทความเป็นภาษาไทย แล้วใช้โปรแกรมแปลภาษา :
* ถ้าคุณ เขียนภาษาอังกฤษไม่เก่ง คุณก็สามารถเขียนเป็นบทความภาษาไทยก่อน แล้วค่อยใช้โปรแกรมแปลภาษา ที่มีอยู่มากมายหลายโปรแกรมในท้องตลาด เอามาใช้ช่วยในการแปลภาษาก็ได้ แต่ในปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีโปรแกรมแปลภาษาของค่ายไหนที่สามารถแปลได้ 100% แต่ที่พอใช้ได้ ก็มี Google Translate ซึ่งพอที่จะใช้แปลบทความ จากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษได้บ้าง
2. บทความจากหนังสือเก่า หรือนิตยาสารเก่าๆ :
* เราสามารถนำบทความที่ได้จาก หนังสือเก่าหรือนิตยาสารเก่ามาใช้ได้ แต่สามารถใช้ได้โดยการ ตัดเฉพาะบางส่วนมาใช้ แล้วให้เขียนเพิ่มความคิดเห็นลงไป เพื่อให้บทความยังเป็นของเจ้าของเดิมอยู่ แต่เราเพียงแค่นำบทความของเขามาเพิ่มความคิดเห็นของเราลงไป หรือใส่บทวิจารณ์ของเราลงไป เพียงเท่านี้เราก็สามารถนำบทความของเขามาใช้ได้
3. ซื้อบทความ หรือ E-book :
* คุณ สามารถหาซื้อ บทความต่างๆ มากมายได้ที่ ebay.com แต่ก็ให้ระวังการที่มีบทความซ้ำกันมากๆ เพราะใครก็ซื้อจากที่นี่เหมือนกัน แต่เราอาจจ้างคนเขียนบทความให้เราโดยเฉพาะก็ได้ เพราะคนรับจ้างเขียนบทความมีเยอะมากในอินเตอร์เน็ต
4. บทความฟรี :
* ในโลกออ นไลน์ มีเว็บที่ให้บริการบทความฟรีอยู่มากมาย เราสามารถ copy บทความเหล่านั้นมาใช้ได้เลย แต่มีข้อเสีย ตรงที่จะมีบทความ ชิ้นเดียวกัน ที่ซ้ำกันมากมาย ทำให้เป็นบทความที่ไม่น่าสนใจ แต่การที่เรานำบทความของเขามาใช้ ก็ควรให้เครดิต กับผู้เป็นเจ้าของบทความด้วย คือ เราต้องเขียนบอกไว้ว่า ใครเป็นเจ้าของบทความนั้นๆ
ขั้นตอนในการ ส่งบทความออกเผยแพร่
* ให้ คุณเลือกเมนู Write Blog
* ใส่ซื้อบทความที่ Title
* ให้คุณ เพิ่มรูป หรือวีดีโอ ตรงนี้
* ใส่บทความ ที่เราจะเผยแพร่
* ใส่ คำ Keyword ให้บทความ
* ใส่ประเภทของบทความ
* แล้ว คลิก Publish เผยแพร่บทความ
เป็นอันว่าเผยแพร่เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ลองมาดูบทความของเราว่าเป็นที่น่าพอใจไหม ถ้าไม่ชอบตรงไหน ก็สามารถแก่ไขได้
1. เขียนบทความเป็นภาษาไทย แล้วใช้โปรแกรมแปลภาษา :
* ถ้าคุณ เขียนภาษาอังกฤษไม่เก่ง คุณก็สามารถเขียนเป็นบทความภาษาไทยก่อน แล้วค่อยใช้โปรแกรมแปลภาษา ที่มีอยู่มากมายหลายโปรแกรมในท้องตลาด เอามาใช้ช่วยในการแปลภาษาก็ได้ แต่ในปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีโปรแกรมแปลภาษาของค่ายไหนที่สามารถแปลได้ 100% แต่ที่พอใช้ได้ ก็มี Google Translate ซึ่งพอที่จะใช้แปลบทความ จากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษได้บ้าง
2. บทความจากหนังสือเก่า หรือนิตยาสารเก่าๆ :
* เราสามารถนำบทความที่ได้จาก หนังสือเก่าหรือนิตยาสารเก่ามาใช้ได้ แต่สามารถใช้ได้โดยการ ตัดเฉพาะบางส่วนมาใช้ แล้วให้เขียนเพิ่มความคิดเห็นลงไป เพื่อให้บทความยังเป็นของเจ้าของเดิมอยู่ แต่เราเพียงแค่นำบทความของเขามาเพิ่มความคิดเห็นของเราลงไป หรือใส่บทวิจารณ์ของเราลงไป เพียงเท่านี้เราก็สามารถนำบทความของเขามาใช้ได้
3. ซื้อบทความ หรือ E-book :
* คุณ สามารถหาซื้อ บทความต่างๆ มากมายได้ที่ ebay.com แต่ก็ให้ระวังการที่มีบทความซ้ำกันมากๆ เพราะใครก็ซื้อจากที่นี่เหมือนกัน แต่เราอาจจ้างคนเขียนบทความให้เราโดยเฉพาะก็ได้ เพราะคนรับจ้างเขียนบทความมีเยอะมากในอินเตอร์เน็ต
4. บทความฟรี :
* ในโลกออ นไลน์ มีเว็บที่ให้บริการบทความฟรีอยู่มากมาย เราสามารถ copy บทความเหล่านั้นมาใช้ได้เลย แต่มีข้อเสีย ตรงที่จะมีบทความ ชิ้นเดียวกัน ที่ซ้ำกันมากมาย ทำให้เป็นบทความที่ไม่น่าสนใจ แต่การที่เรานำบทความของเขามาใช้ ก็ควรให้เครดิต กับผู้เป็นเจ้าของบทความด้วย คือ เราต้องเขียนบอกไว้ว่า ใครเป็นเจ้าของบทความนั้นๆ
ขั้นตอนในการ ส่งบทความออกเผยแพร่
* ให้ คุณเลือกเมนู Write Blog
* ใส่ซื้อบทความที่ Title
* ให้คุณ เพิ่มรูป หรือวีดีโอ ตรงนี้
* ใส่บทความ ที่เราจะเผยแพร่
* ใส่ คำ Keyword ให้บทความ
* ใส่ประเภทของบทความ
* แล้ว คลิก Publish เผยแพร่บทความ
เป็นอันว่าเผยแพร่เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ลองมาดูบทความของเราว่าเป็นที่น่าพอใจไหม ถ้าไม่ชอบตรงไหน ก็สามารถแก่ไขได้
อัปโหลด VDO ขึ้น Flixya
การอัปโหลด VDO ขึ้น Flixya นั้นไม่ยาก แต่ VDO ที่เราจะอัปนั้น ต้องเกี่ยวข้องกับบทความที่บล๊อก ใน Flixya ของเราด้วย เช่น ถ้าในบล๊อกของเรา เขียนเรื่องรถยนต์ เราก็ต้อง อัปโหลด VDO ขึ้น Flixya เป็นเรื่องเกี่ยวกับรถยนต์ด้วย
วิธี การอัปโหลด VDO ขึ้น Flixya
* ให้ เลือกดู Clip VDO ที่เราต้องการจากเว็บที่รับฝากไฟล์ VDO ต่างๆ เช่น Youtube, Google Video, Rewer และยังมีอีกหลายเว็บ
* เมื่อเราเลือกได้แล้ว เราก็มาเลือกเมนู Embed Video
* หลังจากนั้นมันจะแสดงหน้าที่ให้เรากรอกรายละเอียด Tite และรายละเอียดเกี่ยวกับ VDO
* และบอกแหล่งที่มาของ VDO
* แล้ว Copy Code จากแหล่งที่มาใส่ลงไปในช่องที่ให้ไว้
* ให้เราเลือกประเภท ของ VDO
* คลิก Submit เพื่อส่ง VDO ขึ้น Flixya
เพียงเท่านี้ เราก็สามารถส่ง VDO ขึ้น Flixya เพื่อทำรายได้ให้เราได้แล้ว แต่ถ้าอัปโหลด VDO ขึ้น Flixya แล้ว แต่ไม่มีคนเข้ามาดู มันก็ไม่สามารถ ทำรายได้ให้เราได้เช่นกัน เรามาดูวิธีที่ทำให้มีคนเข้ามาชม VDO ของเราจำนวนมากๆ กันดีกว่า
สิ่งสำคัญในการส่ง VDO ขึ้น Flixya คือ
1. เนื้อหา ใน VDO ต้องน่าสนใจ และเกี่ยวเนื่องกับบทความใน บล๊อก Flixya ของเราด้วย
2. เวลาเราเลือก VDO จากเว็บบริการไฟล์ VDO ควรเป็น VDO ที่กำลังได้รับความนิยม
3. ความยาวของ VDO ไม่ควรยาวมากเกินไป
วิธี การอัปโหลด VDO ขึ้น Flixya
* ให้ เลือกดู Clip VDO ที่เราต้องการจากเว็บที่รับฝากไฟล์ VDO ต่างๆ เช่น Youtube, Google Video, Rewer และยังมีอีกหลายเว็บ
* เมื่อเราเลือกได้แล้ว เราก็มาเลือกเมนู Embed Video
* หลังจากนั้นมันจะแสดงหน้าที่ให้เรากรอกรายละเอียด Tite และรายละเอียดเกี่ยวกับ VDO
* และบอกแหล่งที่มาของ VDO
* แล้ว Copy Code จากแหล่งที่มาใส่ลงไปในช่องที่ให้ไว้
* ให้เราเลือกประเภท ของ VDO
* คลิก Submit เพื่อส่ง VDO ขึ้น Flixya
เพียงเท่านี้ เราก็สามารถส่ง VDO ขึ้น Flixya เพื่อทำรายได้ให้เราได้แล้ว แต่ถ้าอัปโหลด VDO ขึ้น Flixya แล้ว แต่ไม่มีคนเข้ามาดู มันก็ไม่สามารถ ทำรายได้ให้เราได้เช่นกัน เรามาดูวิธีที่ทำให้มีคนเข้ามาชม VDO ของเราจำนวนมากๆ กันดีกว่า
สิ่งสำคัญในการส่ง VDO ขึ้น Flixya คือ
1. เนื้อหา ใน VDO ต้องน่าสนใจ และเกี่ยวเนื่องกับบทความใน บล๊อก Flixya ของเราด้วย
2. เวลาเราเลือก VDO จากเว็บบริการไฟล์ VDO ควรเป็น VDO ที่กำลังได้รับความนิยม
3. ความยาวของ VDO ไม่ควรยาวมากเกินไป
อัปโหลดรูปภาพขึ้น Flixya
ส่งภาพขึ้น Flixya เพื่อเรียกผู้ชม
เราจะอัปโหลดภาพอะไรดี เพื่อให้เป็นที่สนใจบน Flixya สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญพอสมควร เราควรอัปโหลดภาพที่เกี่ยวข้องกับ เรื่องราวที่เราทำใน บล๊อกของ Flixya เช่น ในบล๊อก Flixya เขียนเรื่อง รถยนต์ เราก็ควรอัปโหลดภาพที่เกี่ยวกับรถยนต์ แต่ถ้าเราดันไปอัปโหลดภาพ อาหาร เพื่อนๆ ที่เข้าไปดู บล๊อกของเราใน Flixya ก็คงจะงงเช่นกัน คุณว่าไหม
- และภาพที่คุณอัปโหลดขึ้นไปนั้น ไม่ควรจะเป็นไฟล์ที่ใหญ่เกินไป เพราะการทำคุณอัปโหลดภาพใหญ่มากๆ จะทำให้การโหลดภาพขึ้นหน้าจอช้ามากๆ แล้วจะทำให้คนปิดหน้านั้นๆ ของเราหนี เลยหมดโอกาศมีรายได้ และไฟล์ภาพที่ควรใช้ในการอัปโหลดคือ GIF (Grophic Interchange Font) เพราะเป็นไฟล์ภาพที่กำหนดสีได้มากพอสมควร และยังสามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวได้อีกด้วย
ขั้นตอนการอัปโหลดภาพ ขึ้น Flixya
* ให้ เลือกเมนู Upload Photo
* แล้วเราก็ทำการเลือกรูปภาพเพื่ออัปโหลดเลย ที่นี่สามารถอัปโหลดภาพได้หลายๆ ภาพในครั้งเดียว
* ขั้นต่อไปคือการ ตั้งชื่อให้ภาพ พยายามตั้งชื่อภาพให้ตรงกับภาพ แต่ให้โดนใจนิดๆ ก็ได้
* เมื่อ เสร็จเรียบร้อยเราก็มา อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับรูปภาพ
* แล้วใส่ คำ Keyword ให้ภาพด้วย เพื่อการค้นหาที่รวดเร็ว
* ช่องต่อมาก็ให้เลือก ประเภทของรูปภาพ เช่น ภาพข่าว, ภาพกีฬา
* แล้วก็คลิก ปุ่ม Upload เลย
* จากนั้นเขาจะให้เราดู ภาพต่างๆ ที่เรากำลังอัปโหลดอีกครั้ง เพื่อที่เราอาจจะต้องการแก้ไขส่วนไหนเพิ่มเติมบ้าง
* เมื่อเราดู หรือแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ก็กด Done เพื่ออัปโหลดภาพขึ้น Flixya ได้ทันที่เลย
- เมื่อเสร็จแล้วคุณก็จะเห็นภาพที่คุณอัปโหลด บนหน้า Flixya
เราจะอัปโหลดภาพอะไรดี เพื่อให้เป็นที่สนใจบน Flixya สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญพอสมควร เราควรอัปโหลดภาพที่เกี่ยวข้องกับ เรื่องราวที่เราทำใน บล๊อกของ Flixya เช่น ในบล๊อก Flixya เขียนเรื่อง รถยนต์ เราก็ควรอัปโหลดภาพที่เกี่ยวกับรถยนต์ แต่ถ้าเราดันไปอัปโหลดภาพ อาหาร เพื่อนๆ ที่เข้าไปดู บล๊อกของเราใน Flixya ก็คงจะงงเช่นกัน คุณว่าไหม
- และภาพที่คุณอัปโหลดขึ้นไปนั้น ไม่ควรจะเป็นไฟล์ที่ใหญ่เกินไป เพราะการทำคุณอัปโหลดภาพใหญ่มากๆ จะทำให้การโหลดภาพขึ้นหน้าจอช้ามากๆ แล้วจะทำให้คนปิดหน้านั้นๆ ของเราหนี เลยหมดโอกาศมีรายได้ และไฟล์ภาพที่ควรใช้ในการอัปโหลดคือ GIF (Grophic Interchange Font) เพราะเป็นไฟล์ภาพที่กำหนดสีได้มากพอสมควร และยังสามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวได้อีกด้วย
ขั้นตอนการอัปโหลดภาพ ขึ้น Flixya
* ให้ เลือกเมนู Upload Photo
* แล้วเราก็ทำการเลือกรูปภาพเพื่ออัปโหลดเลย ที่นี่สามารถอัปโหลดภาพได้หลายๆ ภาพในครั้งเดียว
* ขั้นต่อไปคือการ ตั้งชื่อให้ภาพ พยายามตั้งชื่อภาพให้ตรงกับภาพ แต่ให้โดนใจนิดๆ ก็ได้
* เมื่อ เสร็จเรียบร้อยเราก็มา อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับรูปภาพ
* แล้วใส่ คำ Keyword ให้ภาพด้วย เพื่อการค้นหาที่รวดเร็ว
* ช่องต่อมาก็ให้เลือก ประเภทของรูปภาพ เช่น ภาพข่าว, ภาพกีฬา
* แล้วก็คลิก ปุ่ม Upload เลย
* จากนั้นเขาจะให้เราดู ภาพต่างๆ ที่เรากำลังอัปโหลดอีกครั้ง เพื่อที่เราอาจจะต้องการแก้ไขส่วนไหนเพิ่มเติมบ้าง
* เมื่อเราดู หรือแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ก็กด Done เพื่ออัปโหลดภาพขึ้น Flixya ได้ทันที่เลย
- เมื่อเสร็จแล้วคุณก็จะเห็นภาพที่คุณอัปโหลด บนหน้า Flixya
การสมัคร Flixya.com
การที่คุณจะทำรายได้กับ Flixya คุณต้องมีบัญชี Google Adsense ด้วย ถ้าคุณมีอยู่แล้วก็มาเริ่มสมัคร Flixya กันเลย
วิธีสมัคร Flixya.com

กรอกรายละเอียดการสมัคร
- Username : ชื่อผู้ใช้ จะเป็นชื่อ Blog ของคุณด้วย
- Email : อีเมล์
- Password : รหัสผ่าน สำหรับเวลา Login
- Comfirm Password : กรอกรหัสผ่านอีกครั้ง
- First Name : ชื่อจริง
- Last Name : นามสกุล
- Enter text above : กรอกตัวอักษรและตัวเลขตามที่เห็นในภาพ
เมื่อกรอกเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกที่.. Start Now!
สังเกตว่ามีป้าย powered by Google Adsense ด้วยให้กด
แล้วให้เลือก Yes ส่วนคนที่ยังไม่มี account ให้สมัครก่อน

- ใส่อีเมล์ที่ใช้สมัคร Adsense
- เบอร์โทรที่บ้าน 5 ตัวหลัง
- รหัสไปรษณีย์
- กด Associate Account

ในหน้านี้ให้คลิกที่ลิงค์.. [no thanks]

ในหน้านี้ ทางเว็บไซต์ให้คุณชวนเพื่อนมาสมัครทำ blog กับที่นี่ จะใส่หรือ ไม่ใส่ก็ได้ แล้วให้คลิกที่ปุ่ม next

ในหน้านี้ บอกว่าการกรอกใบสมัครเรียบร้อยแล้ว
ทาง เว็บไซต์บอกว่า ให้เช็คเมลของคุณ เพื่อทำการยืนยันการสมัคร
โดยเข้าไปดู ในอีเมล์ที่คุณใช้สมัคร

แล้วคลิกลิงค์สำหรับยืนยันการสมัคร จากในอีเมล์ที่ทาง Flixya ส่งมา
แล้วก็จะมาที่หน้านี้ ที่บอกว่า บัญชีสมาชิกได้รับการยืนยันเรียบร้อยแล้ว
เมื่อสมัครเรียบร้อยแล้วใส่บทความอังกฤษ สัก 8 - 12 บทความ โดยใส่บทความคลิกที่ Write Blog
ผ่านได้สบาย ๆ
เมื่อ Log in เข้าสู่ระบบ แล้วคลิกที่ My Account

แล้ว เลือก Revenue Settings แล้วคลิกที่ activate revshare อย่างเดียวนะคับไม่ต้องคลิ๊กกลับ

- เท่านี้เองก็สามารถเพิ่มรายได้ให้กับ Adsense ของเราแล้ว ต่อไปก็แค่หา content ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูป คลิปวิดีโอ หรืออาจจะเขียน Blog ก็ได้ยิ่งเยอะยิ่งดี
วิธีสมัคร Flixya.com

กรอกรายละเอียดการสมัคร
- Username : ชื่อผู้ใช้ จะเป็นชื่อ Blog ของคุณด้วย
- Email : อีเมล์
- Password : รหัสผ่าน สำหรับเวลา Login
- Comfirm Password : กรอกรหัสผ่านอีกครั้ง
- First Name : ชื่อจริง
- Last Name : นามสกุล
- Enter text above : กรอกตัวอักษรและตัวเลขตามที่เห็นในภาพ
เมื่อกรอกเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกที่.. Start Now!
สังเกตว่ามีป้าย powered by Google Adsense ด้วยให้กด
แล้วให้เลือก Yes ส่วนคนที่ยังไม่มี account ให้สมัครก่อน

- ใส่อีเมล์ที่ใช้สมัคร Adsense
- เบอร์โทรที่บ้าน 5 ตัวหลัง
- รหัสไปรษณีย์
- กด Associate Account

ในหน้านี้ให้คลิกที่ลิงค์.. [no thanks]

ในหน้านี้ ทางเว็บไซต์ให้คุณชวนเพื่อนมาสมัครทำ blog กับที่นี่ จะใส่หรือ ไม่ใส่ก็ได้ แล้วให้คลิกที่ปุ่ม next

ในหน้านี้ บอกว่าการกรอกใบสมัครเรียบร้อยแล้ว
ทาง เว็บไซต์บอกว่า ให้เช็คเมลของคุณ เพื่อทำการยืนยันการสมัคร
โดยเข้าไปดู ในอีเมล์ที่คุณใช้สมัคร

แล้วคลิกลิงค์สำหรับยืนยันการสมัคร จากในอีเมล์ที่ทาง Flixya ส่งมา
แล้วก็จะมาที่หน้านี้ ที่บอกว่า บัญชีสมาชิกได้รับการยืนยันเรียบร้อยแล้ว
เมื่อสมัครเรียบร้อยแล้วใส่บทความอังกฤษ สัก 8 - 12 บทความ โดยใส่บทความคลิกที่ Write Blog
ผ่านได้สบาย ๆ
เมื่อ Log in เข้าสู่ระบบ แล้วคลิกที่ My Account

แล้ว เลือก Revenue Settings แล้วคลิกที่ activate revshare อย่างเดียวนะคับไม่ต้องคลิ๊กกลับ

- เท่านี้เองก็สามารถเพิ่มรายได้ให้กับ Adsense ของเราแล้ว ต่อไปก็แค่หา content ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูป คลิปวิดีโอ หรืออาจจะเขียน Blog ก็ได้ยิ่งเยอะยิ่งดี
Flixya คืออะไร
Flixya คือเว็บ Social Networking เว็บหนึ่ง บางคนอาจจะถามว่า Social Networking อะไร มันก็คือ สังคม Online บนอินเตอร์เน็ต ซึ้งเป็นแหล่งพูดคุย หรือรวบร่วมข่าวสาร ที่อยากรู้หรือชอบในเรื่องเดี่ยวกัน มาแชร์ข้อมูลกัน เป็นสังคมที่เราสามารถพูดคุยกันได้ทั่วโลก และได้รับความรู้อะไรใหม่ๆ จากกลุ่มคนที่ชอบอะไรเหมือนกัน เช่นกลุ่มคนที่ชอบรถยนต์ ก็จะคุยกันเรื่องเกี่ยวกับรถยนต์ที่ตนชอบ หรือคนที่ชอบเกี่ยวกับความสวยความงาน เขาก็จะเข้ามาคุยในเว็บ Social Networking ที่เกี่ยวกับความสวยงาม
Flixya ก็เป็นเว็บ Social Networking เช่นกัน และมีผู้คนเป็นล้านคนที่ใช้ Flixya เป็นชุมนุม Online เพื่อพูดคุยกันกับเพื่อนๆ ทั่วโลก แต่หลายๆ คนอาจจะถามว่าแล้วจะทำเงินให้เราได้อย่างไร เฉพาะตัว เองไม่สามารถทำเงินให้เราได้ แต่เมื่อเอา Flixya มารวมกับ Internet Marketing เมื่อไร Flixya ก็จะทำเงินให้เราทันที
แล้ว เจ้า Internet Marketing คืออะไร
- มันก็คือ การทำการตลาดผ่านอินเตอร์เน็ต เพื่อเพิ่มความสามารถให้กับธุรกิจ แล้วก็ยังเพิ่มรายได้ให้เรามากขึ้นอีก
* เมื่อ เอาทั้งสองมารวมกัน ก็จะทำให้เป็นเว็บสังคม Online ที่นี้มีผู้คนเข้าไปใช้มากมายยิ่งขึ้น เพราะเมื่อมีเพื่อนแล้วก็ยังสามารถทำรายได้ให้กับเราได้อีก
ดังนั้น Flixya จึงเหมาะกับผู้ที่อยากมีรายได้เสริม และผู้ที่ชอบสังคม Online หรือใครที่ชอบนั่งเล่นๆ แต่มีเงินเพิ่มขึ้นตลอดเวลา นี่แหละคือ สังคม Flixya
-ครั้ง ต่อไปเราจะบอกถึงการสมัคร Flixya.com และการทำรายได้กับ Flixya
Flixya ก็เป็นเว็บ Social Networking เช่นกัน และมีผู้คนเป็นล้านคนที่ใช้ Flixya เป็นชุมนุม Online เพื่อพูดคุยกันกับเพื่อนๆ ทั่วโลก แต่หลายๆ คนอาจจะถามว่าแล้วจะทำเงินให้เราได้อย่างไร เฉพาะตัว เองไม่สามารถทำเงินให้เราได้ แต่เมื่อเอา Flixya มารวมกับ Internet Marketing เมื่อไร Flixya ก็จะทำเงินให้เราทันที
แล้ว เจ้า Internet Marketing คืออะไร
- มันก็คือ การทำการตลาดผ่านอินเตอร์เน็ต เพื่อเพิ่มความสามารถให้กับธุรกิจ แล้วก็ยังเพิ่มรายได้ให้เรามากขึ้นอีก
* เมื่อ เอาทั้งสองมารวมกัน ก็จะทำให้เป็นเว็บสังคม Online ที่นี้มีผู้คนเข้าไปใช้มากมายยิ่งขึ้น เพราะเมื่อมีเพื่อนแล้วก็ยังสามารถทำรายได้ให้กับเราได้อีก
ดังนั้น Flixya จึงเหมาะกับผู้ที่อยากมีรายได้เสริม และผู้ที่ชอบสังคม Online หรือใครที่ชอบนั่งเล่นๆ แต่มีเงินเพิ่มขึ้นตลอดเวลา นี่แหละคือ สังคม Flixya
-ครั้ง ต่อไปเราจะบอกถึงการสมัคร Flixya.com และการทำรายได้กับ Flixya
วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2553
ข้อดีของ PayPal
1.ในฐานะที่ท่านเป็น ผู้จำหน่ายสินค้าต่างๆ ลูกค้าของท่านในโลกอินเตอร์เน็ตไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติหรือชาวไทย กล้าที่จะนำบัตรเครดิตการ์ดมาชำระท่านผ่าน PayPal
2.ในฐานะผู้ขายสามารถเรียกขอคืนสินค้าจากผู้ซื้อ หรือคนที่รับเงินได้ ในกรณีที่ผู้ซื้อหรือผู้รับเงินโกงผู้ขาย
3.ในฐานะผู้ซื้อ PayPal รับประกันเงินของท่านที่ได้จ่ายไปแล้วว่า ถ้าท่านไม่ได้รับสินค้า PayPal จะจ่ายเงินค่าสินค้าคือให้แก่ท่าน โดยมีค่าธรรมเนียมในการดำเนินการนำเงินส่งคืนท่านเพียงเล็กน้อย
4.ได้รับความเชื่อถือจากทั่วโลก
5.มีระบบความปลอดภัยสูง
6.ท่านสามารถที่จะทำธุรกิจออนไลน์ได้เพราะมีคู่ค้ามากมายที่ยินดีรับชำระ เงินผ่านระบบ PayPal
2.ในฐานะผู้ขายสามารถเรียกขอคืนสินค้าจากผู้ซื้อ หรือคนที่รับเงินได้ ในกรณีที่ผู้ซื้อหรือผู้รับเงินโกงผู้ขาย
3.ในฐานะผู้ซื้อ PayPal รับประกันเงินของท่านที่ได้จ่ายไปแล้วว่า ถ้าท่านไม่ได้รับสินค้า PayPal จะจ่ายเงินค่าสินค้าคือให้แก่ท่าน โดยมีค่าธรรมเนียมในการดำเนินการนำเงินส่งคืนท่านเพียงเล็กน้อย
4.ได้รับความเชื่อถือจากทั่วโลก
5.มีระบบความปลอดภัยสูง
6.ท่านสามารถที่จะทำธุรกิจออนไลน์ได้เพราะมีคู่ค้ามากมายที่ยินดีรับชำระ เงินผ่านระบบ PayPal
PayPal คืออะไร?
ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจกันง่ายๆ PayPal ก็คือธนาคารแห่งหนึ่งนั่นเอง แต่เป็นธนาคารที่อยู่ในรูปแบบออนไลน์หรือธนาคารในโลกอินเตอร์เน็ต ให้บริการเหมือนอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้งในประเทศไทยของเรา มีการ รับเงิน ฝากเงิน และส่งเงินได้เหมือนกับธนาคารทั่วๆ ไป เพียงแต่จะ มีการคิดค่าบริการในการรับส่งเงินดังกล่าวซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมที่ไม่แพงมาก นัก (สำหรับการทำธุรกิจไม่ว่าเล็กหรือใหญ่) ไม่มีดอกเบี้ยให้ แต่ถ้าจะเทียบกับประโยชน์ที่เป็นดอกเบี้ยแล้ว ดอกเบี้ยของ PayPal จะแฝงอยู่ในรูปแบบของ การอำนวยความสะดวก ดูแลการชำระเงินระหว่างคุณกับคู่ค้าของคุณ เช่น ถ้าคุณมีการซื้อขายสินค้าจากเว็บไซต์ ebay โดยส่วนใหญ่แล้วทางผู้จำหน่ายจะระบุให้ผู้ซื้อชำระเงินผ่านทาง PayPal เมื่อใดก็ตามที่มีการทำธุรกรรมผ่าน PayPal ทาง PayPal ก็จะมีการรับประกันเงินของท่านที่จ่ายผ่านทาง PayPal
ในกรณีที่ท่านเป็นผู้ซื้อถ้าท่านไม่ได้รับ สินค้าจากผู้จำหน่าย เมื่อมีการตรวจสอบหลักฐานแล้วปรากฎว่าตัวท่าน(ผู้ซื้อ) ไม่ได้เป็นผู้ผิดทาง PayPal จะดำเนินการคืนเงินให้กับท่านโดยหักค่าธรรมเนียมเล็กน้อยในการคืน แล้วทาง PayPal ก็จะไปไล่เบี้ยเอากับผู้จำหน่ายอีกทอดหนึ่ง ทำให้ท่านมีความปลอดภัยในการจ่ายเงินผ่านทาง PayPal
ในกรณีของผู้จำหน่ายสินค้าก็เช่นกัน เมื่อมีปัญหากับผู้ซื้อก็จะมีการเปิดข้อโต้เถียงกันขึ้น ถ้าท่านเป็นฝ่ายผู้จำหน่ายและทาง PayPal ได้ตรวจสอบแล้วว่าท่านไม่ได้มีความผิดแต่อย่างใดทาง PayPal ก็จะดำเนินการจ่ายเงินให้ท่านตามราคาสินค้าที่ท่านจำหน่ายไปแล้ว ทำให้ท่านถือว่าเป็นผู้ที่มีเครดิตดีในการทำธุรกิจ แบนเนมของท่านก็จะมีชื่อเสียงที่ดี
ที่พิเศษอีกอย่างหนึ่งของ PayPal ก็คือ บัญชีธนาคารของคุณ ก็คืออีเมลของคุณนั่นเอง คุณสามารถส่งเงินไปให้ผู้อื่นได้ทั่วโลกอย่างรวดเร็ว PayPal กลายเป็นผู้นำในการชำระเงินออนไลน์ ซึ่งมีผู้สมัครใช้ PayPal ในการชำระเงินมากกว่า 153 ล้านบัญชีทั่วโลก และสามารถใช้สกุลเงินต่างๆ ได้มากถึง 18 สกุลเงินทั่วโลก PayPal ช่วยให้โลกอีคอมเมิร์ซสามารถชำระเงินที่แตกต่างกันได้ทั่วสถานที่ ทั่วสกุลเงินและภาษา
PayPal ก่อตั้งขึ้นในปี 1998 หรือ พ.ศ.2541 ได้ทำธุรกิจด้านธนาคารออนไลน์มามากกว่า 10 ปีแล้ว มีปลอดภัยสูง มีวิธีการจ่ายและได้รับการชำระเงินทางออนไลน์ที่ง่ายดาย โดยในประเทศไทยสามารถที่จะจ่ายเงินผ่านทางบัตรเดบิตของธนาคารในประเทศไทยได้ เช่น บัตรบีเฟิสร์ ของธนาคารกรุงเทพ, บัตรอีเว็บช๊อบปิ้ง ของธนาคารกสิกรไทย ฯลฯ
ในกรณีที่ท่านเป็นผู้ซื้อถ้าท่านไม่ได้รับ สินค้าจากผู้จำหน่าย เมื่อมีการตรวจสอบหลักฐานแล้วปรากฎว่าตัวท่าน(ผู้ซื้อ) ไม่ได้เป็นผู้ผิดทาง PayPal จะดำเนินการคืนเงินให้กับท่านโดยหักค่าธรรมเนียมเล็กน้อยในการคืน แล้วทาง PayPal ก็จะไปไล่เบี้ยเอากับผู้จำหน่ายอีกทอดหนึ่ง ทำให้ท่านมีความปลอดภัยในการจ่ายเงินผ่านทาง PayPal
ในกรณีของผู้จำหน่ายสินค้าก็เช่นกัน เมื่อมีปัญหากับผู้ซื้อก็จะมีการเปิดข้อโต้เถียงกันขึ้น ถ้าท่านเป็นฝ่ายผู้จำหน่ายและทาง PayPal ได้ตรวจสอบแล้วว่าท่านไม่ได้มีความผิดแต่อย่างใดทาง PayPal ก็จะดำเนินการจ่ายเงินให้ท่านตามราคาสินค้าที่ท่านจำหน่ายไปแล้ว ทำให้ท่านถือว่าเป็นผู้ที่มีเครดิตดีในการทำธุรกิจ แบนเนมของท่านก็จะมีชื่อเสียงที่ดี
ที่พิเศษอีกอย่างหนึ่งของ PayPal ก็คือ บัญชีธนาคารของคุณ ก็คืออีเมลของคุณนั่นเอง คุณสามารถส่งเงินไปให้ผู้อื่นได้ทั่วโลกอย่างรวดเร็ว PayPal กลายเป็นผู้นำในการชำระเงินออนไลน์ ซึ่งมีผู้สมัครใช้ PayPal ในการชำระเงินมากกว่า 153 ล้านบัญชีทั่วโลก และสามารถใช้สกุลเงินต่างๆ ได้มากถึง 18 สกุลเงินทั่วโลก PayPal ช่วยให้โลกอีคอมเมิร์ซสามารถชำระเงินที่แตกต่างกันได้ทั่วสถานที่ ทั่วสกุลเงินและภาษา
PayPal ก่อตั้งขึ้นในปี 1998 หรือ พ.ศ.2541 ได้ทำธุรกิจด้านธนาคารออนไลน์มามากกว่า 10 ปีแล้ว มีปลอดภัยสูง มีวิธีการจ่ายและได้รับการชำระเงินทางออนไลน์ที่ง่ายดาย โดยในประเทศไทยสามารถที่จะจ่ายเงินผ่านทางบัตรเดบิตของธนาคารในประเทศไทยได้ เช่น บัตรบีเฟิสร์ ของธนาคารกรุงเทพ, บัตรอีเว็บช๊อบปิ้ง ของธนาคารกสิกรไทย ฯลฯ
หาเงินจาก www.linkbucks.com ที่นักโหลดเคยคลิกมานับไม่ถ้วน
หวัดดีคับ ที่ทำไฟล์นี้ขึ้นมาเผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ กับเพื่อนๆ ที่ต้องการหารายได้พิเศษอ่ะคับ
เนื่องจากเศรษฐกิจเยี่ยงนี้ (ต้องใช้ศัพท์คำนี้เลย ^_^") มานทำให้พวกเราเดือดร้อนเรื่องเงินไปตามๆกัน
ดัง นั้นผมก็เลยมีความคิดที่ว่าจะทำยังไงให้ได้ตังค์เพิ่มมากขึ้น โดยที่เราไม่ต้องเหนื่อย?????
งงมั้ยหล่ะว่าทำได้ยังไง มันมีด้วยหรือวิธีนี้ ตอนแรกผมก็สงสัยอย่างนี้แหละ แต่ก็ลองผิดลองถูกอยู่
จน ในที่สุดผมก็ค้นพบวิธีที่ว่ามาจนได้!!!!!! เดี๋ยวจะบอกให้ว่าทำยังไง แต่ก่อนอื่นมาอ่านข้อความนี้ก่อน
"ทุกวันนี้การทำงานเพื่อเงินนั้นง่าย แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรที่จะรักษาเงินนั้นไว้ให้อยู่กับเรา และ
ใช้ เงินนั้นให้ทำงานให้เรา และเพิ่มพูนอยู่เรื่อยๆ โดยไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพ
วิธีที่ผมใช้อยู่ ก็เปรียบเสมือนกับ "การปลูกต้นไม้ที่ออกลูกเป็นเงินเป็นทอง" คือจะใจร้อนไม่ได้
ต้องค่อยๆใส่ปุ๋ย พรวนดิน ต้องใช้เวลา อย่าใจร้อนเด็ดขาด!!!! ขอย้ำ และเมื่อถึงวันที่ต้นไม้โตมันจะ
ออกดอกออก ผลให้เพื่อนๆ อย่างสม่ำเสมอโดยเราไม่ต้องไปทำอะไรกับมันแล้ว ซึ่งในตอนแรกๆมันอาจ
ดูว่าได้น้อย แต่เพื่อนๆต้องไม่ลืมว่า เราไม่ได้ลงทุนอะไรเลย สำหรับรายได้ที่เกิดขึ้นต่อจากนี้เป็นรายได้
ที่ ได้มาฟรีๆ ย้ำ ฟรีๆ สิ่งที่เสียไปมีอย่างเดียวคือ เวลา (แต่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละคน)
คิดว่าตอนนี้เพื่อนๆ คงพร้อมแล้วงั้นมาดูกันว่าเราจะต้องทำอย่างไรบ้าง"
สิ่งที่จะต้องมี (ส่วนวิธีสมัครจะบอกในตอนท้ายนะครับ)
1. บัญชี PAYPAL (PAYPAL คือธนาคารบนโลกอินเตอร์เนท เอาไว้สำหรับให้เขาโอนเงินให้เรา)
2. สมัครเป็นสมาชิกของ Linkbucks
การทำงานกับ Linkbucks ต้องทำยังไง???
1. นำที่อยู่ของหน้าเวป ที่ต้องการมาแปลงลิงค์ กับ Linkbucks
2. นำลิงค์ ที่ได้จาก Linkbucks มาโปรโมท หรือ การนำไปโพสท์ตามเวปต่างๆ เพื่อให้มีคนคลิกผ่าน
ลิงค์ของเรา
3. จบไม่มีแล้ว @^_^@
ดูวิธีการส มัคร linkbucks เปลี่ยน link เป็นเงิน คลิกอ่านต่อที่นี่เลย
เนื่องจากเศรษฐกิจเยี่ยงนี้ (ต้องใช้ศัพท์คำนี้เลย ^_^") มานทำให้พวกเราเดือดร้อนเรื่องเงินไปตามๆกัน
ดัง นั้นผมก็เลยมีความคิดที่ว่าจะทำยังไงให้ได้ตังค์เพิ่มมากขึ้น โดยที่เราไม่ต้องเหนื่อย?????
งงมั้ยหล่ะว่าทำได้ยังไง มันมีด้วยหรือวิธีนี้ ตอนแรกผมก็สงสัยอย่างนี้แหละ แต่ก็ลองผิดลองถูกอยู่
จน ในที่สุดผมก็ค้นพบวิธีที่ว่ามาจนได้!!!!!! เดี๋ยวจะบอกให้ว่าทำยังไง แต่ก่อนอื่นมาอ่านข้อความนี้ก่อน
"ทุกวันนี้การทำงานเพื่อเงินนั้นง่าย แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรที่จะรักษาเงินนั้นไว้ให้อยู่กับเรา และ
ใช้ เงินนั้นให้ทำงานให้เรา และเพิ่มพูนอยู่เรื่อยๆ โดยไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพ
วิธีที่ผมใช้อยู่ ก็เปรียบเสมือนกับ "การปลูกต้นไม้ที่ออกลูกเป็นเงินเป็นทอง" คือจะใจร้อนไม่ได้
ต้องค่อยๆใส่ปุ๋ย พรวนดิน ต้องใช้เวลา อย่าใจร้อนเด็ดขาด!!!! ขอย้ำ และเมื่อถึงวันที่ต้นไม้โตมันจะ
ออกดอกออก ผลให้เพื่อนๆ อย่างสม่ำเสมอโดยเราไม่ต้องไปทำอะไรกับมันแล้ว ซึ่งในตอนแรกๆมันอาจ
ดูว่าได้น้อย แต่เพื่อนๆต้องไม่ลืมว่า เราไม่ได้ลงทุนอะไรเลย สำหรับรายได้ที่เกิดขึ้นต่อจากนี้เป็นรายได้
ที่ ได้มาฟรีๆ ย้ำ ฟรีๆ สิ่งที่เสียไปมีอย่างเดียวคือ เวลา (แต่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละคน)
คิดว่าตอนนี้เพื่อนๆ คงพร้อมแล้วงั้นมาดูกันว่าเราจะต้องทำอย่างไรบ้าง"
สิ่งที่จะต้องมี (ส่วนวิธีสมัครจะบอกในตอนท้ายนะครับ)
1. บัญชี PAYPAL (PAYPAL คือธนาคารบนโลกอินเตอร์เนท เอาไว้สำหรับให้เขาโอนเงินให้เรา)
2. สมัครเป็นสมาชิกของ Linkbucks
การทำงานกับ Linkbucks ต้องทำยังไง???
1. นำที่อยู่ของหน้าเวป ที่ต้องการมาแปลงลิงค์ กับ Linkbucks
2. นำลิงค์ ที่ได้จาก Linkbucks มาโปรโมท หรือ การนำไปโพสท์ตามเวปต่างๆ เพื่อให้มีคนคลิกผ่าน
ลิงค์ของเรา
3. จบไม่มีแล้ว @^_^@
ดูวิธีการส มัคร linkbucks เปลี่ยน link เป็นเงิน คลิกอ่านต่อที่นี่เลย
วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2553
สอนการสมัคร Paypal
บัญชีการรับจ่ายเงิน Online ที่ไม่ควรพลาด กำเนิดเมื่อปี 1998 เริ่มให้บริการเมื่อปี 1999
เป็นผู้นำระดับโลกในการชำระเงินออนไลน์ ปัจจุบัน มีเมนูปรับเลือกภาษา มีภาษาไทย อธิบายอย่างละเอียด เข้าใจง่าย

PayPal ได้รับการออกแบบมาจากแนวคิดเพื่อให้เป็นหนึ่งในวิธีการส่งเงินออนไลน์ที่ ปลอดภัยที่สุด ไม่เหมือนกับสถาบันการเงินอื่นๆ การชำระเงินของเราจะถูกส่งโดยไม่มีการเปิดเผยข้อมูลทางการเงิน ตามข้อเท็จจริงนั้น PayPal ไม่เคยเปิดเผยข้อมูลทางการเงินของคุณหรือขายข้อมูลดังกล่าวให้กับผู้ค้า

การสมัคร Paypal สมัครฟรี แต่ จำเป็นต้องมีเครดิตการ์ด หรือบัตรเว็บการ์ด ในการยืนยันบัญชี
(สำหรับผู้ที่ไม่มีบัตรเครดิต แนะนำบัตรเว็บการ์ดครับ เพราะง่าย และสะดวก ไม่อ้างอิงเงินเดือน บัตรเว็บการ์ด เป็นบริการของธนาคารกสิกรไทย สามารถใช้จ่ายได้ทางเน็ต เทียบกับบัตร วีซ่า การใช้จ่าย กรณีเราซื้อสินค้าทางเน็ต จะหักเงิน จากในบัญชี ไม่ต้องเป็นหนี้เหมือนบัตรเครดิตครับ)
ท่านใดมีบัตรแล้วก็ คลิกเพื่อเริ่มสู่การสมัคร Paypal ได้เลยครับ
เข้าสู่เว็บไซต์แล้ว คลิกที่ Sign Up Today! เพื่อสมัครสมาชิก ก็จะมีให้เลือกประเทศ
ก็เลือกประเทศไทย แล้วหน้าเว็บก็จะกลายเป็นภาษาไทยครับ

มีให้เลือก 3 รูปแบบการสมัคร เลือกรูปแบบที่ต้องการ
บัญชีส่วนบุคคล - สำหรับ บุคคลธรรมดา ใช้ ซื้อสินค้า online
บัญชี Premier - สำหรับบุคคลธรรมดา ที่ซื้อ และขายสินค้า online
(ท่านใด อยากลองขายสินค้าบน eBay ดู ก็สามารถสมัคร Premier ไว้ได้เลย)
บัญชีธุรกิจ - สำหรับผู้ค้า ในนามชื่อบริษัท หรือชื่อกลุ่ม
ขั้นตอนต่อไป
กรอก e-mail แล้วตั้ง Password แล้ว กรอกยืนยันพาสเวิร์ดนั้นอีกครั้ง (Re-enter password) นอกนั้นก็กรอกตามหัวข้อต่างๆ

เบอร์โทรศัพท์ ถ้าประเทศไทยให้กรอก 66 นำหน้า แล้วตัดเลข 0 ตัวหน้าออก
เช่น เบอร์ 089-1234567 ก็กรอกเป็น 66891234567 ..สำหรับเบอร์โทรนี้ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆเค้าจะไม่โทรมานะครับ ใช้ในกรณีที่เราโดน แฮกเงินใน paypal หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เราเสียหาย เพื่อยืนยันว่าเราเสียหายจริง ทางออกสุดท้ายคือการตรวจสอบทางโทรศัพท์ครับ ซึ่งเป็นประโยชน์กับเราครับ
หมายเลขบัตรเครดิต ถ้าใช้บัตรเว็บการ์ด(Shopping Card) ก็กรอก หมายเลขบัตรเว็บการ์ดนะครับ บัตรเว็บการ์ดจะเป็นเหมือนบัตรเครดิต VISA
Expiration date วันหมดอายุบัตร
CSC กรอกเลข 3 ตัวของบัตร หรือเลข CVV ครับ
เป็นอันเสร็จขั้นตอน ก็คลิกที่ ข้าพเจ้ายอมรับ โปรดสร้างบัญชี ...ได้เลยครับ

ให้เราเข้าไปเช็ค e-mail ของเราก่อน เพื่อคลิกยืนยันการสมัคร Paypal ให้เสร็จก่อนก็จะมีลิ้งค์ Activate account ให้คลิก เมื่อคลิกแล้ว ระบบก็จะให้ใส่ password ที่ตั้งขึ้นตอนสมัคร แล้วกดยืนยัน พอยืนยันแล้วก็กด continue ก็จะไปที่หน้า บัญชี Paypal โดยในบัญชี จะยังบอกว่าเราเป็น Unverified ก็ให้เราคลิกที่เมนูซ้าย ที่เขียนว่า Enroll in Expanded Use เพื่อยืนยันบัตรเครดิต
การยืนยันบัตรเครดิต ระบบจะหักเงินจากบัตร $1.95 หรือประมาณ 70 บาทครับ (และระบบจะคืนเงิน $1.95 ให้ เมื่อเราทำการสั่งจ่ายเงินออกจาก Paypal ครั้งแรก) คลิก Get number แล้วก็ Continue ก็เป็นอันเสร็จ เราก็รอดูรายการการใช้บัตรเครดิต ที่จะรายงานสรุปยอด
สำหรับบัตรเว็บการ์ด ก็ให้รอประมาณ 4 วัน เมื่อ login เข้า เว็บ kasikornbank เพื่อดูยอดบัญชี บัตรเว็บการ์ด แล้วดูในส่วนการใช้บัตร จะมีแจ้ง เลข 4 ตัว ****PAYPAL ตามด้วย paypal เป็นการแจ้งว่า เราได้ใช้จ่าย รายการนี้ โดยมีรหัส 4 ตัว เราก็นำเลข 4 ตัวนี้แหละครับ ในการยืนยันว่าเราเป็นเจ้าของบัตรจริงๆ ไม่ได้นำบัตรใครมาแอบอ้าง ...ก็ให้เรา login เข้า Paypal ดูที่เมนูด้านซ้าย คลิกเข้าไปที่ Complete Expanded Use Enrollment เพื่อเข้าไปกรอกยืนยัน แล้ว Submit สถานะของบัญชีเราก็จะเป็น Verified เป็นอันเสร็จสมบูรณ์ในการสมัคร
เป็นผู้นำระดับโลกในการชำระเงินออนไลน์ ปัจจุบัน มีเมนูปรับเลือกภาษา มีภาษาไทย อธิบายอย่างละเอียด เข้าใจง่าย
PayPal ได้รับการออกแบบมาจากแนวคิดเพื่อให้เป็นหนึ่งในวิธีการส่งเงินออนไลน์ที่ ปลอดภัยที่สุด ไม่เหมือนกับสถาบันการเงินอื่นๆ การชำระเงินของเราจะถูกส่งโดยไม่มีการเปิดเผยข้อมูลทางการเงิน ตามข้อเท็จจริงนั้น PayPal ไม่เคยเปิดเผยข้อมูลทางการเงินของคุณหรือขายข้อมูลดังกล่าวให้กับผู้ค้า
การสมัคร Paypal สมัครฟรี แต่ จำเป็นต้องมีเครดิตการ์ด หรือบัตรเว็บการ์ด ในการยืนยันบัญชี
(สำหรับผู้ที่ไม่มีบัตรเครดิต แนะนำบัตรเว็บการ์ดครับ เพราะง่าย และสะดวก ไม่อ้างอิงเงินเดือน บัตรเว็บการ์ด เป็นบริการของธนาคารกสิกรไทย สามารถใช้จ่ายได้ทางเน็ต เทียบกับบัตร วีซ่า การใช้จ่าย กรณีเราซื้อสินค้าทางเน็ต จะหักเงิน จากในบัญชี ไม่ต้องเป็นหนี้เหมือนบัตรเครดิตครับ)
สำหรับบัตร เว็บการ์ด หรือปัจจุบัน เปลี่ยนชื่อเป็น บัตร Shopping Card ของธนาคารกสิกรไทย ..เมื่อได้หมายเลขบัตรแล้ว ระบบจะเซ็ตวงเงินในการใช้จ่ายทางเน็ต ไว้ที่ 0 บาท ...ดังนั้น ก่อนใช้บัตรเว็บการ์ดใช้จ่ายทางเน็ต หรือใช้สมัคร paypal ให้ไปเปลี่ยนวงเงินในบัตรก่อนนะครับ ให้วงเงินสามารถใช้จ่ายได้ ...สำหรับการสมัคร Paypal จะถูกหักเงินประมาณ 1 เหรียญเศษๆ หรือประมาณ 70 กว่าบาท และ Paypal จะคืนเงินที่หักให้ในภายหลังครับ ซึ่งล่าสุดอาจคืนให้ หลังจากที่เชื่อมบัตรแล้วทันทีครับ(แต่ก่อนจะคืนให้หลังจาก มีการสั่งจ่ายครั้งแรก) ..ที่ต้องหักเงินเนื่องจาก ใช้เป็นตัวเชื่อมบัตรกะ Paypal ครับ
( บัตรที่คล้ายๆบัตรเว็บการ์ด จะมีของ แบงค์กรุงเทพครับ เป็นบัตร B First 1 แบบมีเลข CVV ออกโดยสำนักงานใหญ่ หากอยากทำบัตรนั้น ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่แบงค์ก่อนทำนะครับ )
ท่านใดมีบัตรแล้วก็ คลิกเพื่อเริ่มสู่การสมัคร Paypal ได้เลยครับ
เข้าสู่เว็บไซต์แล้ว คลิกที่ Sign Up Today! เพื่อสมัครสมาชิก ก็จะมีให้เลือกประเทศ
ก็เลือกประเทศไทย แล้วหน้าเว็บก็จะกลายเป็นภาษาไทยครับ
มีให้เลือก 3 รูปแบบการสมัคร เลือกรูปแบบที่ต้องการ
บัญชีส่วนบุคคล - สำหรับ บุคคลธรรมดา ใช้ ซื้อสินค้า online
บัญชี Premier - สำหรับบุคคลธรรมดา ที่ซื้อ และขายสินค้า online
(ท่านใด อยากลองขายสินค้าบน eBay ดู ก็สามารถสมัคร Premier ไว้ได้เลย)
บัญชีธุรกิจ - สำหรับผู้ค้า ในนามชื่อบริษัท หรือชื่อกลุ่ม
ขั้นตอนต่อไป
กรอก e-mail แล้วตั้ง Password แล้ว กรอกยืนยันพาสเวิร์ดนั้นอีกครั้ง (Re-enter password) นอกนั้นก็กรอกตามหัวข้อต่างๆ
เบอร์โทรศัพท์ ถ้าประเทศไทยให้กรอก 66 นำหน้า แล้วตัดเลข 0 ตัวหน้าออก
เช่น เบอร์ 089-1234567 ก็กรอกเป็น 66891234567 ..สำหรับเบอร์โทรนี้ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆเค้าจะไม่โทรมานะครับ ใช้ในกรณีที่เราโดน แฮกเงินใน paypal หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เราเสียหาย เพื่อยืนยันว่าเราเสียหายจริง ทางออกสุดท้ายคือการตรวจสอบทางโทรศัพท์ครับ ซึ่งเป็นประโยชน์กับเราครับ
หมายเลขบัตรเครดิต ถ้าใช้บัตรเว็บการ์ด(Shopping Card) ก็กรอก หมายเลขบัตรเว็บการ์ดนะครับ บัตรเว็บการ์ดจะเป็นเหมือนบัตรเครดิต VISA
Expiration date วันหมดอายุบัตร
CSC กรอกเลข 3 ตัวของบัตร หรือเลข CVV ครับ
เป็นอันเสร็จขั้นตอน ก็คลิกที่ ข้าพเจ้ายอมรับ โปรดสร้างบัญชี ...ได้เลยครับ
ให้เราเข้าไปเช็ค e-mail ของเราก่อน เพื่อคลิกยืนยันการสมัคร Paypal ให้เสร็จก่อนก็จะมีลิ้งค์ Activate account ให้คลิก เมื่อคลิกแล้ว ระบบก็จะให้ใส่ password ที่ตั้งขึ้นตอนสมัคร แล้วกดยืนยัน พอยืนยันแล้วก็กด continue ก็จะไปที่หน้า บัญชี Paypal โดยในบัญชี จะยังบอกว่าเราเป็น Unverified ก็ให้เราคลิกที่เมนูซ้าย ที่เขียนว่า Enroll in Expanded Use เพื่อยืนยันบัตรเครดิต
การยืนยันบัตรเครดิต ระบบจะหักเงินจากบัตร $1.95 หรือประมาณ 70 บาทครับ (และระบบจะคืนเงิน $1.95 ให้ เมื่อเราทำการสั่งจ่ายเงินออกจาก Paypal ครั้งแรก) คลิก Get number แล้วก็ Continue ก็เป็นอันเสร็จ เราก็รอดูรายการการใช้บัตรเครดิต ที่จะรายงานสรุปยอด
สำหรับบัตรเว็บการ์ด ก็ให้รอประมาณ 4 วัน เมื่อ login เข้า เว็บ kasikornbank เพื่อดูยอดบัญชี บัตรเว็บการ์ด แล้วดูในส่วนการใช้บัตร จะมีแจ้ง เลข 4 ตัว ****PAYPAL ตามด้วย paypal เป็นการแจ้งว่า เราได้ใช้จ่าย รายการนี้ โดยมีรหัส 4 ตัว เราก็นำเลข 4 ตัวนี้แหละครับ ในการยืนยันว่าเราเป็นเจ้าของบัตรจริงๆ ไม่ได้นำบัตรใครมาแอบอ้าง ...ก็ให้เรา login เข้า Paypal ดูที่เมนูด้านซ้าย คลิกเข้าไปที่ Complete Expanded Use Enrollment เพื่อเข้าไปกรอกยืนยัน แล้ว Submit สถานะของบัญชีเราก็จะเป็น Verified เป็นอันเสร็จสมบูรณ์ในการสมัคร
Google Wave หาเงินออนไลน์ต้องรู้จักนะจ๊ะ
ทำไมต้องรู้จัก Google Wave เพราะมันอาจมาแทน messenger ที่เราใช้กันอยู่ แต่ทุกวันนี้เหมือนมีอะไรก็ไม่รู้ ใช้แล้วเหมือนมีอะไรมาลบกวน ส่งโน่น ส่งนี่มาให้ดู ลองดู
จุดเด่นของ Google Wave มีดังนี้
* การสื่อสารทุกอย่างเป็นแบบเรียลไทม์ ถึงขนาดว่าเรามองเห็นว่าเพื่อนพิมพ์ตัวอักษรอะไรอยู่ในขณะนั้น (ควรดูวิดีโอประกอบ)
* การสื่อสารแบบเรียลไทม์ ทำให้ไม่ต้องแบ่งแยกระหว่างอีเมลกับ IM อีกต่อไป หัวข้อสนทนาประเด็นหนึ่งๆ จะถูกเรียกว่า “wave”
* wave เป็นสื่อแบบมัลติมีเดียสมบูรณ์แบบ มันเป็น rich document ในระดับเดียวกับ Google Docs สามารถใส่ได้ทั้งภาพ เสียง วิดีโอ Maps ฯลฯ
* เนื่องจากเราสามารถแก้ไข wave แบบเรียลไทม์ได้พร้อมกับเพื่อนๆ มันจึงทำหน้าที่เป็น collaboration tool ได้ กรณีเทียบเคียงคือ Wiki ที่แก้ไขได้พร้อมกัน หรือ แบ่งตั้งชื่อภาพจำนวนมากในอัลบั้ม
* และเนื่องจากมันเป็น collaboration tool ที่สามารถแก้ไขพร้อมกันได้ มันจึงมีความสามารถด้าน revision control เช่นเดียวกับ SVN หรือ git (กูเกิลทำให้มันดูหรูขึ้นโดยใส่ timeline แบบโปรแกรมมัลติมีเดียลงไป สามารถกด playback เวอร์ชันได้)
* ระบบเพื่อนของ Google Wave จะคล้ายๆ กับ social network คือ เพิ่มเพื่อนเป็นรายคนลงใน Wave ได้ แยกลำดับชั้นความลับได้
* เราสามารถนำ Wave ไปฝังลงในเว็บเพจปกติได้ การแก้ไข (หรือคอมเมนต์) ที่เกิดขึ้นจะแสดงให้เห็นทั้งสองฝั่ง ไม่ว่าจะดูผ่านหน้าเว็บที่ฝัง Wave เอาไว้ หรือดูจากหน้า Wave เอง (เช่น คอมเมนต์ที่เว็บ จะไปโผล่ที่ Wave ทันที)
จุดเด่นของ Google Wave มีดังนี้
* การสื่อสารทุกอย่างเป็นแบบเรียลไทม์ ถึงขนาดว่าเรามองเห็นว่าเพื่อนพิมพ์ตัวอักษรอะไรอยู่ในขณะนั้น (ควรดูวิดีโอประกอบ)
* การสื่อสารแบบเรียลไทม์ ทำให้ไม่ต้องแบ่งแยกระหว่างอีเมลกับ IM อีกต่อไป หัวข้อสนทนาประเด็นหนึ่งๆ จะถูกเรียกว่า “wave”
* wave เป็นสื่อแบบมัลติมีเดียสมบูรณ์แบบ มันเป็น rich document ในระดับเดียวกับ Google Docs สามารถใส่ได้ทั้งภาพ เสียง วิดีโอ Maps ฯลฯ
* เนื่องจากเราสามารถแก้ไข wave แบบเรียลไทม์ได้พร้อมกับเพื่อนๆ มันจึงทำหน้าที่เป็น collaboration tool ได้ กรณีเทียบเคียงคือ Wiki ที่แก้ไขได้พร้อมกัน หรือ แบ่งตั้งชื่อภาพจำนวนมากในอัลบั้ม
* และเนื่องจากมันเป็น collaboration tool ที่สามารถแก้ไขพร้อมกันได้ มันจึงมีความสามารถด้าน revision control เช่นเดียวกับ SVN หรือ git (กูเกิลทำให้มันดูหรูขึ้นโดยใส่ timeline แบบโปรแกรมมัลติมีเดียลงไป สามารถกด playback เวอร์ชันได้)
* ระบบเพื่อนของ Google Wave จะคล้ายๆ กับ social network คือ เพิ่มเพื่อนเป็นรายคนลงใน Wave ได้ แยกลำดับชั้นความลับได้
* เราสามารถนำ Wave ไปฝังลงในเว็บเพจปกติได้ การแก้ไข (หรือคอมเมนต์) ที่เกิดขึ้นจะแสดงให้เห็นทั้งสองฝั่ง ไม่ว่าจะดูผ่านหน้าเว็บที่ฝัง Wave เอาไว้ หรือดูจากหน้า Wave เอง (เช่น คอมเมนต์ที่เว็บ จะไปโผล่ที่ Wave ทันที)
แฉกลโกง การหาเงินออนไลน์
หลายคนคง เคยเห็นโฆษณาวิธีการหาเงินง่ายๆ เพียงแค่นั่งคลิ๊กแบนเนอร์ เพียงวันละ 2-3 ชั่วโมงแต่ได้เงินตอบแทน เดือนละ 1000-2000 "เหรียญ" แล้วความน่าจะเป็นจริงของโฆษณาน่าเบื่อพวกนี้ จะเป็นจริงหรือไม่เชื่อถือได้หรือไม่นั้น ลองพิจารณาดูกันครับ
กลลวง หาเงินออนไลน์
มีการถกเถียงและถามกันอย่างมากมาย แต่ไม่เคยมีใครให้คำตอบได้อย่างแท้จริง เรื่องการหาเงินออนไลน์ ว่ามีการทำเงินรายได้มากมายอย่างที่ โม้หรือเขียนกันไว้ตามฟรีบอร์ดต่างๆ หรือไม่ แต่ก่อนที่คุณจะเข้าไปร่วมกับธุรกิจนี้ คุณควรทำความเข้าใจกับคำว่าหาเงินออนไลน์ก่อนนะครับ
หาเงินออนไลน์คืออะไร
คำตอบก็คือ การหาเงินด้วยการใช้ระบบอินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือ
หาเงินออนไลน์ หากันอย่างไร
คำตอบก็คือ มีหลายรูปแบบครับ เช่น การคลิ๊กแบนเนอร์ (Pay per click or PPC) การอ่านอีเมล์ (Pay per Read or PPR) การค้นหาข้อมูล (Pay per searce or PPS) การเข้าไปลงทะเบียน สมัครสมาชิก(Pay per Signup) หรือแม้แต่การ เข้าไปตอบคำถามกลับเว็บไซท์ที่รับเป็นตัวแทนสอบถามข้อมูล ส่วนมากจะเรียกกันว่าเป็นภาษาอังกฤษว่า Pay per surveys
คำถามสำคัญครับ มันจ่ายเงินจริงหรือเปล่า
คำตอบก็คือ มีสองอย่างครับ จ่ายจริง แต่จ่ายน้อย กว่าจะทำคะแนนหรือสะสมเงินได้ก็ว่ากันเป็นสองสามเดือน กว่าจะได้สักสองสามเหรียญ เรียกว่า คุณจะท้อขี้เกียจทำต่อก่อนที่จะได้เงินครับ และที่จ่ายไม่จริง นี่แหละครับที่ต้องออกมาแฉกัน เพราะเว็บพวกนี้จะบอกว่า แค่สมัครเฉยๆ ก็ได้หลายสิบเหรียญขึ้นแล้ว ซึ่งความจริง มันจะเป็นไปได้อย่างไรครับ ใครมันจะเอาเงินมาทิ้งให้คนในโลกอินเตอร์เน็ตได้เยอะขนาดนั้น (ข้อนี้กว่าจะกระจ่าง ก็หลงให้พวกมันหลอกใช้เป็นสองเดือนครับ คะแนน หรือยอดเงินพุ่งสูงมาก วันเดียวทำได้เป็นพันกว่าเหรียญครับ มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน ใครมันจะมีเงินมาจ่ายให้เราขนาดนั้น และแค่การเข้าไปคลิ๊กไปอ่าน มันไม่ได้มีการสร้างเม็ดเงินอะไรมากมายขนาดนั้นหรอก ) ที่ผมมีเวลาทำเป็นสองเดือนกว่า ก็เพราะผมทำงานร้านอินเตอร์เน็ตครับ จึงมีเวลาทดลองทำ
เขาหลอกกัน อย่างไร
มีหลายเว็บที่เป็นเครือข่ายกลุ่มเดียวกัน และถ้าสังเกตุให้ดีจะเห็นเลยว่ารูปแบบของการสมัคร และช่องที่ให้กรอกมันจะเป็นเหมือนกันทุกอย่างเลยครับ ต่างแต่สีของเว็บเพจและชื่อเท่านั้นแหละ พวกนี้จะให้คะแนนที่สูงมาก แค่วันเดียวก็ทำได้เป็น 1000 กว่าเหรียญแล้วครับ เวลาที่เขาส่งข้อมูลให้เรา ส่วนมากมันก็จะเป็นแบนเนอร์ของกลุ่มนี้แหละครับที่วนกันไปวนกันมาอยู่แค่ นั้น แค่คลิ๊กเข้าไปเยี่ยมหน้าเว็บเพจ ไม่กี่นาทีแล้วทำเงินได้เหรียญสองเหรียญ มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ ดอลล่าร์หนึ่งมูลค่าไม่ใช่น้อยนะครับ
แล้วส่วนที่ไม่หลอกล่ะ
มีหลายเว็บครับที่ไม่หลอก แต่ค่าตอบแทนน้อยมาก มันนับมูลค่าตอบแทนเป็น Cent ครับ และเป็นพ้อยท์ ซึ่ง คุณจะต้องเสียเวลามากเป็นสองสามวันกว่าจะได้สักเหรียญครับ บางทีก็เป็นสัปดาห์เลยครับ แล้วมันจะคุ้มค่าไฟ และค่าเสียเวลาคุณหรือเปล่าล่ะ และการเข้าไปคลิ๊ก มันไม่ใช่ว่าจะปุ๊บปั๊บเสร็จทันทีเมื่อไหร่ครับ คุณจะต้องรอให้หน้ามันรีเฟรชด้วย จึงจะได้แต้ม เสียเวลาไม่น้อยเลยล่ะครับ หากเอาเวลานั่งคลิ๊กตรงนั้นไปทำอย่างอื่น จะมีมูลค่าตอบแทนที่สูงกว่ามากครับ เทียบกันไม่ได้เลยล่ะ และที่สำคัญทุกเว็บเขาจะมีข้อกำหนดขั้นต่ำในการจ่ายเงินครับ พอคุณสะสมเงินใกล้ถึงกำหนดขั้นต่ำแล้ว มันก็จะไม่ส่งงานให้คุณอีกเลยครับ งานไม่มา แล้วมันจะได้เงินครบกำหนดได้อย่างไร แล้วคุณจะรอมันไหมล่ะ ถึงตอนนี้คุณก็เบื่อแล้วครับ บอกกันอีกครั้งครับ อย่าเสียเวลากับพวกนี้เลย เอาเวลาของคุณไปทำอย่างอื่นดีกว่า ค้นหาความรู้ในอินเตอร์เน็ต หรือดูเว็บโป๊ ยังคุ้มค่ากว่าการเข้าไปคลิ๊กเว็บประเภทนี้เลยครับ
กลลวง หาเงินออนไลน์
มีการถกเถียงและถามกันอย่างมากมาย แต่ไม่เคยมีใครให้คำตอบได้อย่างแท้จริง เรื่องการหาเงินออนไลน์ ว่ามีการทำเงินรายได้มากมายอย่างที่ โม้หรือเขียนกันไว้ตามฟรีบอร์ดต่างๆ หรือไม่ แต่ก่อนที่คุณจะเข้าไปร่วมกับธุรกิจนี้ คุณควรทำความเข้าใจกับคำว่าหาเงินออนไลน์ก่อนนะครับ
หาเงินออนไลน์คืออะไร
คำตอบก็คือ การหาเงินด้วยการใช้ระบบอินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือ
หาเงินออนไลน์ หากันอย่างไร
คำตอบก็คือ มีหลายรูปแบบครับ เช่น การคลิ๊กแบนเนอร์ (Pay per click or PPC) การอ่านอีเมล์ (Pay per Read or PPR) การค้นหาข้อมูล (Pay per searce or PPS) การเข้าไปลงทะเบียน สมัครสมาชิก(Pay per Signup) หรือแม้แต่การ เข้าไปตอบคำถามกลับเว็บไซท์ที่รับเป็นตัวแทนสอบถามข้อมูล ส่วนมากจะเรียกกันว่าเป็นภาษาอังกฤษว่า Pay per surveys
คำถามสำคัญครับ มันจ่ายเงินจริงหรือเปล่า
คำตอบก็คือ มีสองอย่างครับ จ่ายจริง แต่จ่ายน้อย กว่าจะทำคะแนนหรือสะสมเงินได้ก็ว่ากันเป็นสองสามเดือน กว่าจะได้สักสองสามเหรียญ เรียกว่า คุณจะท้อขี้เกียจทำต่อก่อนที่จะได้เงินครับ และที่จ่ายไม่จริง นี่แหละครับที่ต้องออกมาแฉกัน เพราะเว็บพวกนี้จะบอกว่า แค่สมัครเฉยๆ ก็ได้หลายสิบเหรียญขึ้นแล้ว ซึ่งความจริง มันจะเป็นไปได้อย่างไรครับ ใครมันจะเอาเงินมาทิ้งให้คนในโลกอินเตอร์เน็ตได้เยอะขนาดนั้น (ข้อนี้กว่าจะกระจ่าง ก็หลงให้พวกมันหลอกใช้เป็นสองเดือนครับ คะแนน หรือยอดเงินพุ่งสูงมาก วันเดียวทำได้เป็นพันกว่าเหรียญครับ มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน ใครมันจะมีเงินมาจ่ายให้เราขนาดนั้น และแค่การเข้าไปคลิ๊กไปอ่าน มันไม่ได้มีการสร้างเม็ดเงินอะไรมากมายขนาดนั้นหรอก ) ที่ผมมีเวลาทำเป็นสองเดือนกว่า ก็เพราะผมทำงานร้านอินเตอร์เน็ตครับ จึงมีเวลาทดลองทำ
เขาหลอกกัน อย่างไร
มีหลายเว็บที่เป็นเครือข่ายกลุ่มเดียวกัน และถ้าสังเกตุให้ดีจะเห็นเลยว่ารูปแบบของการสมัคร และช่องที่ให้กรอกมันจะเป็นเหมือนกันทุกอย่างเลยครับ ต่างแต่สีของเว็บเพจและชื่อเท่านั้นแหละ พวกนี้จะให้คะแนนที่สูงมาก แค่วันเดียวก็ทำได้เป็น 1000 กว่าเหรียญแล้วครับ เวลาที่เขาส่งข้อมูลให้เรา ส่วนมากมันก็จะเป็นแบนเนอร์ของกลุ่มนี้แหละครับที่วนกันไปวนกันมาอยู่แค่ นั้น แค่คลิ๊กเข้าไปเยี่ยมหน้าเว็บเพจ ไม่กี่นาทีแล้วทำเงินได้เหรียญสองเหรียญ มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ ดอลล่าร์หนึ่งมูลค่าไม่ใช่น้อยนะครับ
แล้วส่วนที่ไม่หลอกล่ะ
มีหลายเว็บครับที่ไม่หลอก แต่ค่าตอบแทนน้อยมาก มันนับมูลค่าตอบแทนเป็น Cent ครับ และเป็นพ้อยท์ ซึ่ง คุณจะต้องเสียเวลามากเป็นสองสามวันกว่าจะได้สักเหรียญครับ บางทีก็เป็นสัปดาห์เลยครับ แล้วมันจะคุ้มค่าไฟ และค่าเสียเวลาคุณหรือเปล่าล่ะ และการเข้าไปคลิ๊ก มันไม่ใช่ว่าจะปุ๊บปั๊บเสร็จทันทีเมื่อไหร่ครับ คุณจะต้องรอให้หน้ามันรีเฟรชด้วย จึงจะได้แต้ม เสียเวลาไม่น้อยเลยล่ะครับ หากเอาเวลานั่งคลิ๊กตรงนั้นไปทำอย่างอื่น จะมีมูลค่าตอบแทนที่สูงกว่ามากครับ เทียบกันไม่ได้เลยล่ะ และที่สำคัญทุกเว็บเขาจะมีข้อกำหนดขั้นต่ำในการจ่ายเงินครับ พอคุณสะสมเงินใกล้ถึงกำหนดขั้นต่ำแล้ว มันก็จะไม่ส่งงานให้คุณอีกเลยครับ งานไม่มา แล้วมันจะได้เงินครบกำหนดได้อย่างไร แล้วคุณจะรอมันไหมล่ะ ถึงตอนนี้คุณก็เบื่อแล้วครับ บอกกันอีกครั้งครับ อย่าเสียเวลากับพวกนี้เลย เอาเวลาของคุณไปทำอย่างอื่นดีกว่า ค้นหาความรู้ในอินเตอร์เน็ต หรือดูเว็บโป๊ ยังคุ้มค่ากว่าการเข้าไปคลิ๊กเว็บประเภทนี้เลยครับ
การสมัคร linkbucks เปลี่ยน link เป็นเงิน
เมื่อมีคนคลิกเข้าไป ก็จะมี โฆษณาของ linkbucks ขึ้นมาก่อนประมาณ 15 วิ แล้วก็จะเข้าไปหน้า website ตามปกติครับ รายได้จะได้จากการ impression ครับไม่ต้องคลิกโฆษณาก็ได้เงิน
linkbucks มีหลักการคิดเงินคิดทุกๆ 3500 Intermission impressions จะได้ $1
linkbucks จ่ายขั้นต่ำอยู่ที่ $5 โดยกำหนดจ่ายแบบ Instant payout requests ซึ่งก็คือเราทำถึงขั้นต่ำเมื่อไรก็สามารถสั่งจ่ายเงินได้ทันที แต่ถ้าใคร request payment ไปแล้วสถานะเป็น review ก็ต้องรอ 5-7 วันถึงจะได้รับเงิน โดย linkbucks จ่ายผ่าน Paypal

linkbucks มีระบบดาวไลลึก 3 ชั้น โดยแบ่งเป็น % ดังนี้
linkbucks 1st Tier Referrals (20%)
linkbucks 2nd Tier Referrals (10%)
linkbucks 3rd Tier Referrals (2%)
วิธี สมัคร linkbucks
1. ให้เข้าไปที่เว็บไซต์ของ linkbucks โดยคลิกที่ link ด้านล่าง
http://www.linkbucks.com/referral/224693

2. คลิกที่ Sign-up!

3. เมื่อเข้ามาแล้ว ก็ให้กรอกข้อมูลในการสมัครสมาชิกครับ (e-mail ต้องเป็นอีเมล์ที่ใช้ได้จริงครับ)
4. เมื่อลงทะเบียนสมาชิกเสร็จแล้ว ก็ให้เข้าไปในเมลที่ทำการสมัครเพื่อทำการยืนยัน account เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการสมัคร linkbucks ครับ
วิธี Create links linkbucks
1. ให้เพื่อนๆเข้าไปที่เมนู Create links ก่อนครับ

2. ในหน้า Create Links ให้ใส่ข้อมูลดังนี้

-Link to convert: คือ url ที่เราจะทำการเปลี่ยน link
-Landing Page Content is: คือเนื้อหาของหน้าที่เราเปลี่ยนถ้าออกแนวโป้ก็ให้เลือกเป็น 18+
-Ad Type: คือรูปแบบของตัวโฆษณาแนะนำ Intermission
-Alias URL: เลือก link ที่ต้องการเปลี่ยน เลือกแบบไหนก็ได้แล้วแต่ความชอบ
แล้วคลิก Generate Link เพื่อทำการเปลี่ยน link
3. หลังจากคลิก Generate Link แล้วเราก็จะได้ link เพื่อนำไปให้คนอื่นคลิกตามรูปครับ

แค่นำ link ที่เราทำพวกนี้ไปโปรโมทเราก็สามารถทำเงินจาก linkbucks ได้แล้วครับ
linkbucks มีหลักการคิดเงินคิดทุกๆ 3500 Intermission impressions จะได้ $1
linkbucks จ่ายขั้นต่ำอยู่ที่ $5 โดยกำหนดจ่ายแบบ Instant payout requests ซึ่งก็คือเราทำถึงขั้นต่ำเมื่อไรก็สามารถสั่งจ่ายเงินได้ทันที แต่ถ้าใคร request payment ไปแล้วสถานะเป็น review ก็ต้องรอ 5-7 วันถึงจะได้รับเงิน โดย linkbucks จ่ายผ่าน Paypal
หลักฐานการจ่ายของ linkbucks

linkbucks มีระบบดาวไลลึก 3 ชั้น โดยแบ่งเป็น % ดังนี้
linkbucks 1st Tier Referrals (20%)
linkbucks 2nd Tier Referrals (10%)
linkbucks 3rd Tier Referrals (2%)
วิธี สมัคร linkbucks
1. ให้เข้าไปที่เว็บไซต์ของ linkbucks โดยคลิกที่ link ด้านล่าง
http://www.linkbucks.com/referral/224693
2. คลิกที่ Sign-up!

3. เมื่อเข้ามาแล้ว ก็ให้กรอกข้อมูลในการสมัครสมาชิกครับ (e-mail ต้องเป็นอีเมล์ที่ใช้ได้จริงครับ)
4. เมื่อลงทะเบียนสมาชิกเสร็จแล้ว ก็ให้เข้าไปในเมลที่ทำการสมัครเพื่อทำการยืนยัน account เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการสมัคร linkbucks ครับ
วิธี Create links linkbucks
1. ให้เพื่อนๆเข้าไปที่เมนู Create links ก่อนครับ

2. ในหน้า Create Links ให้ใส่ข้อมูลดังนี้

-Link to convert: คือ url ที่เราจะทำการเปลี่ยน link
-Landing Page Content is: คือเนื้อหาของหน้าที่เราเปลี่ยนถ้าออกแนวโป้ก็ให้เลือกเป็น 18+
-Ad Type: คือรูปแบบของตัวโฆษณาแนะนำ Intermission
-Alias URL: เลือก link ที่ต้องการเปลี่ยน เลือกแบบไหนก็ได้แล้วแต่ความชอบ
แล้วคลิก Generate Link เพื่อทำการเปลี่ยน link
3. หลังจากคลิก Generate Link แล้วเราก็จะได้ link เพื่อนำไปให้คนอื่นคลิกตามรูปครับ

แค่นำ link ที่เราทำพวกนี้ไปโปรโมทเราก็สามารถทำเงินจาก linkbucks ได้แล้วครับ
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)